นิสชินดามาเอะราเมน รสซุปกระดูกหมูผสมโชยุ กี่แคล ?

นิสชินดามาเอะราเมน รสซุปกระดูกหมูผสมโชยุ กี่แคล เราก็อยากรู้ว่าถ้าเรากิน นิสชินดามาเอะราเมน รสซุปกระดูกหมูผสมโชยุหมดไป 1 ซอง จะอ้วนขนาดไหนนะ แต่อย่างที่เราทราบกันดีนะคะว่าถ้าเรารู้หลักโภชนาการ เลือกกินในปริมาณพอเหมาะ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เราก็จะมีรูปร่างที่ดีสมส่วน สุขภาพที่แข็งแรง มาค่ะวันนี้แอดริน จะพาไปเปิดโลกการกิน เมื่อกินนิสชินดามาเอะราเมน รสซุปกระดูกหมูผสมโชยุ ต้องกินเท่าไหร่และออกกำลังกายแค่ไหน ไปชมกันเลยค่ะ

ข้อมูลทางโภชนาการของ นิสชินดามาเอะราเมน รสซุปกระดูกหมูผสมโชยุ

นิสชินดามาเอะราเมน รสซุปกระดูกหมูผสมโชยุ 1 ซอง 100 กรัม มีแคลอรี่ 430 กิโลแคลอรี่

ข้อมูลโภชนาการ
นิสชินดามาเอะราเมน รสซุปกระดูกหมูผสมโชยุ	100	กรัม
พลังงาน	430	กิโลแคลอรี่
พลังงานจากไขมัน	170.0	กิโลแคลอรี่
สารอาหาร
ไขมัน	17.0	กรัม
คาร์โบไฮเดรต	61.0	กรัม
โปรตีน	10.0	กรัม
โซเดียม	1810.0	กรัม

ตารางออกกำลังเพื่อกำจัด นิสชินดามาเอะราเมน รสซุปกระดูกหมูผสมโชยุ จำนวน 430 กิโลแคลอรี่

กิจกรรม	เวลา	หน่วย
วิ่งเร็ว	32	นาที
เดิน	86	นาที
วิ่งจ๊อกกิ้ง	52	นาที
วิ่งบนลู่	52	นาที
ว่ายน้ำ	34	นาที
โยคะ	86	นาที
พีลาทีส	136	นาที
เต้นซุมบ้า	52	นาที
เต้นแอโรบิค	43	นาที
ฮูลาฮูป	60	นาที
กระโดดเชือก	33	นาที
ฟุตบอล	34	นาที
เล่นบาสเก็ตบอล	45	นาที
ตีเทนนิส	46	นาที
ตีกอล์ฟ	108	นาที
HIIT	32	นาที

หลักการรับประทานอาหารให้สุขภาพดี

1. กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และต้องทานให้ครบทุกหมู่

กินเมนูให้หลากหลายประเภท และหมั่นดูแลน้ำหนักตัว ข้อแนะนำนี้เป็นหลักในการกินให้มีสุขภาพดี ให้ยึดอาหารหลัก 5 หมู่ และกินแต่ละหมู่ให้หลากหลาย อย่ารับประทานเมนูเดียวกันบ่อยๆ หมั่นชั่งน้ำหนักตัวอย่างสม่ำเสมอ อย่าให้น้ำหนักตัวมากหรือน้อยเกินไป เพราะน้ำหนักตัวบ่งบอกถึงภาวะสุขภาพ ดังนั้นจึงควรตรวจสอบน้ำหนักตัวอย่างน้อยเดือนละครั้งนะคะ

2. รับประทานข้าวเป็นอาหารหลัก สลับกับคาร์โบไฮเดรตประเภทอื่นบ้าง

สำหรับคนไทยแล้ว เรารับประทานข้าวเป็นอาหารหลัก เพื่อสุขภาพที่ดี ควรรับประทานข้าวซ้อมมือเพราะมีวิตามิน แร่ธาตุ โปรตีนและใยอาหารมากกว่าข้าวที่ขัดสีจนขาว ส่วนคาร์บประเภทอื่น เช่น ขนมปัง เส้นก๋วยเตี๋ยว เส้นขนมจีน และอื่นๆให้รับประทานบ้างเป็นบางมื้อ เนื่องจากเป็นแป้งผ่านกระบวนการแปรรูป จึงมีคุณค่าทางสารอาหารน้อยกว่าข้าวซ้อมมือมาก

3. รับประทานพืชผัก และผลไม้เป็นประจำ

เนื่องจากประเทศไทยสามารถหาพืชผัก และผลไม้ทานได้ง่าย เราสามารถหาผัก และผลไม้ทานได้ทุกวัน โดยผักและผลไม้เป็นแหล่งสารอาหารสำคัญหลายชนิด มีแร่ธาตุ วิตามิน และใยอาหาร เป็นแหล่งแอนตี้ออกซิแดน ช่วยทำลายสารอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยไม่ให้เซลล์เสื่อมสลายไว ช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส และยังช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย เนื่องจากกากใยสูงอีกด้วยค่ะ

4. รับประทานอาหารที่มีโปรตีนดี เนื้อปลา เนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมันเป็นประจำ

ให้รับประทานโปรตีนที่มีคุณภาพสูง ให้เน้นไปที่เนื้อปลาคุณภาพดี โปรตีนสูงและถั่วต่างๆ เช่นเนื้อสัตว์ต่างๆ ที่ไม่ติดมัน และโปรตีนจากเต้าหู้ และอาหารอีกอย่างที่ราคาไม่แพง และมีโปรตีนสูงคือไข่ เด็กควรรับประทานวันละฟอง ผู้ใหญ่สามารถรับประทานได้วันเว้นวันค่ะ

5. รับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ

ถึงแม้ว่าไขมันจะมีความเกี่ยวข้องกับปัญหาโภชนาการ เช่น ปัญหาโรคอ้วน ที่จะนำโรคต่างๆตามมาอีกมากมาย เช่นความดัน หัวใจ แต่ไขมันก็มีความจำเป็นต่อร่างกายด้วยเช่นกัน เพียงแต่ต้องควบคุมปริมาณ และชนิดของไขมัน ต้องบริโภคในปริมาณเหมาะสม หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงเกินไป เช่นหมูสามชั้น ขาหมูพะโล้ และแกงกะทิต่างๆเป็นต้น

6. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัดเกินไป

ส่วนประกอบของอาหารรสจัดได้แก่ น้ำตาล และเกลือ ซึ่งเครื่องปรุงรสอาหารทั้งสองชนิดนี้ หากรับประทานมากจนเกินไป จะทำให้เกิดโรคต่างๆตามมาเช่นโรคอ้วน เบาหวาน หัวใจ ความดัน ให้เลือกรับประทานอาหารโดยหลีกเลี่ยง อาหารที่มีรสจัดๆ ต้องรับประทานอาหารที่มีรสชาติธรรมดา ไม่มีการปรุงรสมากเกินไป หลีกเลี่ยงการปรุง เกลือ เครื่องปรุงรส น้ำตาล เพิ่มลงในอาหาร แล้วหันมากินอาหารแบบสำรับไทย ที่มีกับข้าวหลากหลายชนิด เพื่อให้เกิดความหลากหลายของรสชาติอาหาร และร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนค่ะ

7. ออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างถูกวิธี

นอกจากการรับประทานอาหารที่ดีแล้ว การออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างถูกวิธี จะทำให้เราห่างไกลโรคภัย ระบบต่างๆ ทำงานได้อย่างเป็นปกติ เช่นระบบการหมุนเวียนโลหิต ทำงานได้มีประสิทธิภาพ ป้องกันการเกิดโรคหัวใจต่างๆ รวมถึงความดันผิดปกติ มีภูมิต้านทานของร่างกายที่ดีขึ้น และช่วยป้องกันโรคภัยต่างๆ

บทส่งท้าย

นิสชินดามาเอะราเมน รสซุปกระดูกหมูผสมโชยุ กี่แคล กินดีหรือเปล่า สามารถกินได้ไม่มีปัญหานะคะ เพียงแต่ต้องรับประทานให้พอเหมาะ ออกกำลังกายเป็นกิจวัตร ไม่ได้กินเมนูเดียวซ้ำๆกัน ให้ได้สารอาหารครบถ้วน จะทำให้เรามีร่างกายที่ฟิต แอนด์เฟิร์ม มีร่างกายแข็งแรง และอย่าลืมอ่านฉลากโภชนาการ ดูแคลอรี่ในอาหาร วางแผนการรับประทานอย่างดีแล้ว ก็เลือกกินได้เลยค่ะ