เอลเซ่ใบเตย
เอลเซ่ใบเตย กี่แคล ?
เอลเซ่ใบเตย Ellse Pandan Cake กี่แคล เคยสงสัยมั้ยว่า ถ้าเรากินเอลเซ่ใบเตย 1 ซอง รวดเดียวเข้าไปแล้วแคลอรี่จะขนาดไหนนะ แต่แอดรินคิดว่า ถ้าเราอ่านฉลากโภชนาการเป็นและฉลาดเลือกกิน เลือกกินในปริมาณพอเหมาะ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เราก็จะมีรูปร่างที่ดีสมส่วน สุขภาพที่แข็งแรง มาค่ะวันนี้แอดริน จะพาไปเปิดโลกการกิน เมื่อกินเอลเซ่ใบเตย ต้องกินเท่าไหร่และออกกำลังกายแค่ไหน ไปชมกันเลยค่ะ
ข้อมูลทางโภชนาการของ เอลเซ่ใบเตย
เอลเซ่ใบเตย 1 ซอง 24 กรัม มีแคลอรี่ 100 กิโลแคลอรี่
ข้อมูลโภชนาการ |
เอลเซ่ใบเตย
หน่วยบริโภค 1 ซอง (ประมาณ 24 กรัม)
Serving Per Container 1 Source: www.กี่แคล.com
|
จำนวนต่อหนึ่งหน่วยบริโภค
|
พลังงานทั้งหมด 100
พลังงานจากไขมัน 45
|
% แนะนำต่อวัน*
|
ไขมันทั้งหมด 5 ก.
8%
|
ไขมันอิ่มตัว 3 ก.
13%
|
ไขมันทรานซ์ 0 ก.
|
โคเลสเตอรอล 20 มก.
7%
|
โซเดียม 45 มก.
2%
|
คาร์โบไฮเดรตทั้งหมด 14 ก.
5%
|
ใยอาหาร 1 ก.
4%
|
น้ำตาล 7 ก.
|
โปรตีน 1 ก.
|
*ข้อมูลสารอาหารและรายละเอียดเป็นค่าประมาณการ โปรดใช้ข้อมูลในการวางแผนการบริโภคเท่านั้น.
|
ตารางออกกำลังเพื่อกำจัด เอลเซ่ใบเตย จำนวน 100 กิโลแคลอรี่
หลักการรับประทานอาหารให้สุขภาพดี
1. กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และกินให้สารอาหารหลากหลาย
กินเมนูให้หลากหลายประเภท และหมั่นดูแลน้ำหนักตัว ข้อแนะนำนี้เป็นหลักโภชนาการ ให้ทานอาหารหลักให้ครบ 5 หมู่ และกระจายรับประทานแต่ละหมู่อย่างหลากหลาย อย่ารับประทานเมนูเดียวกันบ่อยๆ หมั่นตรวสอบน้ำหนักตัว อย่าให้อ้วนหรือผอมเกินไป เพราะน้ำหนักตัวบ่งบอกถึงภาวะสุขภาพ ดังนั้นจึงควรตรวจสอบน้ำหนักตัวอย่างน้อยเดือนละครั้งนะคะ
2. รับประทานข้าวเป็นอาหารหลัก สลับกับคาร์โบไฮเดรตประเภทอื่นบ้าง
สำหรับคนไทยที่กินข้าวเป็นอาหารหลักแล้ว เพื่อที่จะได้รับสารอาหารที่ดี ควรรับประทานข้าวซ้อมมือเพราะมีวิตามิน แร่ธาตุ โปรตีนและใยอาหารมากกว่าข้าวที่ขัดสีจนขาว ส่วนคาร์บประเภทอื่น เช่น เส้นก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง และอื่นๆให้รับประทานบ้างเป็นบางมื้อ เนื่องจากแป้งผ่านการขัดสี จึงมีคุณค่าทางโภชนาการน้อยกว่าข้าวซ้อมมือมาก
3. รับประทานพืชผัก และผลไม้ในมื้ออาหารเป็นประจำ
เนื่องจากประเทศไทยทีความอุดมสมบูรณ์ เราสามารถหาผัก และผลไม้ทานได้ตลอดทั้งปี โดยในผักและผลไม้มีสารอาหารที่สำคัญหลายชนิด มีวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร เป็นแหล่งแอนตี้ออกซิแดน ช่วยทำลายสารอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอการเสื่อมสลายของเซลล์ ช่วยทำให้หน้าตาดูอ่อนวัย นอกจากนี้ยังมีกากใยสูง ช่วยในระบบการขับถ่ายด้วยค่ะ
4. รับประทานอาหารที่มีโปรตีนดี เนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน ไข่ และถั่วเป็นประจำ
ให้รับประทานโปรตีนที่มีคุณภาพสูง ให้เน้นไปที่เนื้อปลาคุณภาพดี โปรตีนสูงและถั่วต่างๆ เช่นเต้าหู้ และเนื้อสัตว์ไม่ติดมันต่างๆ และไข่ ซึ่งเป็นอาหารราคาไม่สูง และเต็มเปี่ยมไปด้วยโปรตีน เด็กควรรับประทานวันละฟอง ผู้ใหญ่สามารถรับประทานได้วันเว้นวันค่ะ
5. คิดสักนิดก่อนรับประทานอาหารไขมันสูง
ทุกคนรู้ดีว่าถ้าบริโภคไขมันมากเกินไป จะเกิดปัญหาด้านสุขภาพ และจะทำให้เกิดโรคอ้วน ความดันสูง หัวใจขาดเลือดตามมา แต่ว่าร่างกายของเราก็ขาดไขมันไม่ได้เช่นกัน แต่ต้องจำกัดปริมาณ ชนิดของไขมัน และรับแประทานในปริมาณเหมาะสม ลดอาหารที่มีไขมันสูง เช่นแกงกะทิต่างๆ หมูสามชั้น และข้าวขาหมู เป็นต้น
6. หลีกเลี่ยงอาหารรสหวานจัด และเค็มจัดจนเกินไป
ส่วนประกอบของอาหารรสจัดได้แก่ น้ำตาล และเกลือ ซึ่งส่วนประกอบสารปรุงรสทั้ง 2 ชนิดนี้นั้นหากรับประทานมากเกินไป จะทำให้เกิดโรคต่างๆตามมาเช่นโรคอ้วน เบาหวาน หัวใจ ความดัน วิธีปฎิบัติที่ดี นอกจากหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัดแล้ว ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีรสชาติธรรมดา ไม่ปรุงรสมากจนเกินไป พยายามงด หรือหลีกเลี่ยง การปรุงรสอาหารเพิ่มเติม ลงในอาหารที่ปรุงสุกแล้ว แล้วหันมากินอาหารแบบสำรับไทย ที่มีกับข้าวหลากหลายชนิด เพื่อให้เกิดความหลากหลายในลสชาติ ไม่จำเจทำให้ไม่เบื่อและสารอาหารครบถ้วนค่ะ
7. ออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างถูกวิธี
นอกจากการรับประทานอาหารที่ดีแล้ว การออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างถูกวิธี จะทำให้ไร้โรคภัย สุขภาพแข็งแรง กลไกการทำงานต่างๆ ของร่างกาย ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่นระบบหมุนเวียนโลหิต ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันการเกิดโรคหัวใจต่างๆ รวมถึงความดันผิดปกติ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานดี สามารถป้องกันการเกิดโรคต่างๆ
บทส่งท้าย
เอลเซ่ใบเตย กี่แคล กินแล้วอ้วนไหม เราสามารถรับประทานได้ค่ะ เพียงแค่มีสติก่อนรับประทาน ออกกำลังกายเป็นกิจวัตร ไม่รับประทานเมนูเดียว ให้ได้สารอาหารครบถ้วน จะทำให้เรามีร่างกายแข็งแรง ห่างไกลความอ้วน และวางแผนรับประทาน ตรวจสอบแคลอรี่ในอาหาร ถ้าคำนวณพลังงานอย่างดีแล้ว ก็เลือกกินได้เลยค่ะ
เรื่องน่าอ่าน:
คาร์ดิโอ 10 วิธีเบิร์นไขมันกระจาย
วิธีลดไขมัน 14 วิธีเพิ่มอัตราการเผาผลาญ
ดูสูตรอาหารและเคล็ดลับเด็ดๆได้ที่นี่